SSP เลื่อนดิวิชั่น เข้าเทรด SET ตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง! มั่นใจสถาบันในประเทศ-ตปท.เพิ่มน้ำหนักลงทุน

27 มีนาคม 2562

SSP ก้าวอีกสเต็ป ย้ายเข้าเทรด SET ตอกย้ำปัจจัยพื้นฐานแกร่ง ด้านผู้บริหาร “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจนักลงทุนสถาบันในประเทศ-ต่างประเทศ ให้การต้อนรับอย่างดีเยี่ยม หนุนหุ้นมีสภาพคล่อง-มาร์เก็ตแคปพุ่ง ลั่นผลงานปี 62 โตแกร่ง รายได้-กำไรจ่อทุบสถิติใหม่ หลัง COD เพิ่มเป็น 157 MW

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อนุมัติการย้ายหลักทรัพย์ของ SSP เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันนี้ (27 มีนาคม 2562) เป็นวันแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ถือเป็นการตอกย้ำถึงปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจมีความแข็งแกร่ง และมีคุณสมบัติครบถ้วนตลาดเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ

ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากที่ SSP ย้ายเข้าเทรดใน SET จะช่วยลดข้อจำกัดในการเข้าลงทุนของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขาย ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมาก ส่งผลให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) เพิ่มขึ้นในอนาคต

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในปี 2562 บริษัทฯจะมีการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ปีที่แล้วเต็มปี รวมทั้งมีโรงไฟฟ้าที่จะทยอย COD เพิ่มอีกประมาณ 66 เมกะวัตต์ ประกอบไปด้วยโครงการโซลาร์ฟาร์มที่มองโกเลียประมาณ 16 เมกะวัตต์ (ไตรมาส 2/62) และโครงการที่เวียดนามราว 50 เมกะวัตต์ (มิถุนายน 2562) ส่งผลให้ในปี 2562 จะมีโครงการที่ COD เพิ่มเป็น 157 เมกะวัตต์

“เราอยู่ระหว่างการศึกษาการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโครงการโซลาร์ฟาร์มในต่างประเทศเพิ่มเติมจากที่บริษัทได้เข้าลงทุนไปแล้วอย่างประเทศเวียดนาม ญี่ปุ่น และมองโกเลีย โดยเน้นเฉพาะโครงการที่มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่เหมาะสมเช่นเดิม ตั้งเป้าผลักดันให้รายได้ กำไร และเงินปันผลในแต่ละปีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานนำโดยภาคเอกชนชั้นนำของเอเชีย (The Leading Asia’s Private Infrastructure Fund: LEAP) ได้ลงนามในสัญญาเงินกู้จำนวน 18.7 ล้านดอลลาร์ กับ บริษัท TGC (Tenuun Gerel Construction LLC : TGC) ในโครงการก่อสร้าง ดำเนินการ และบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 15 เมกะวัตต์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบสายไฟฟ้ากลาง

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในงวดปี 2561 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561) มีรายได้รวม 1,137.4 ล้านบาท เติบโต 30% และมีกำไรสุทธิ 482.0 ล้านบาท เติบโต 42% โดยกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 90.4 เมกะวัตต์ ในปี 2561 จาก 52 เมกะวัตต์ ในปี 2560 โดยรายได้และกำไรปี 2561 ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาจากการที่ SSP สามารถขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆได้เป็นไปตามกำหนด

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.217 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 7 พฤษภาคม และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562