ข่าวประชาสัมพันธ์
SSP หุ้นเด่นเดือนสิงหาฯ Valuation ถูก อนาคตโตแรง! เคาะเป้า 10 บ.
SSP หุ้นโรงไฟฟ้าไซส์เล็กพริกขี้หนู อนาคตไกล รายได้-กำไรโตก้าวกระโดดจากกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทุกปี บล.ทรีนีตี้ยกให้เป็นหุ้นเด่นในเดือน ส.ค. บอก Valuation ถูก ฟาก บล.เคทีบีเอส เคาะเป้า 10 บาท/หุ้น อัพไซด์เพียบเทียบราคาในกระดานที่ 7.50 บาท/หุ้น
ภาพรวมแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/63 ยังคงแกว่งตัวผันผวนจากความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แม้จะเริ่มมีความหวังกับยาต้านไวรัส แต่ในแง่ผลกระทบเศรษฐกิจที่แท้จริง ทำให้การบริโภคการลงทุน หดตัวอย่างเห็นได้ชัด
และที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/63 ที่ทยอยประกาศออกมา ชัดเจนผลประกอบการร่วงแรง อย่างเห็นได้ชัด จากผลกระทบที่เกิดขึ้น
ขณะที่มุมมองของบรรดาผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ ต่างประเมินไปในทิศทางเดียวกันว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 3/63 ยังคงมีความเสี่ยง “ขาลง”
+++SPP โรงไฟฟ้าไซส์เล็ก Valuation ถูก
บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด แนะนำธีมกลยุทธ์การลงทุนเดือนสิงหาคม โดยให้น้ำหนักกับหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กใน 6 กลุ่มอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 1. กลุ่มบริหารหนี้ที่ไม่มีหลักประกัน ได้แก่ JMT และ CHAYO 2. กลุ่มเกษตรและอาหาร ได้แก่ TFG, ASIAN, APURE, SUN, XO 3. กลุ่มปั๊มน้ำมัน ได้แก่ PTG 4. กลุ่มแพคเกจจิ้ง ได้แก่ SFLEX, PTL 5. กลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีการเติบโตดี ได้แก่ TPCH, SSP และ 6. กลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็กอื่นที่ยังมี Valuation ถูก เมื่อเทียบกับการเติบโตที่รออยู่ ได้แก่ ILINK, PRM, SMPC
+++ล็อคราคาเป้าหมาย 10 บ.
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อหุ้น SSP ราคาเป้าหมาย 10.00 บาท/หุ้น โดยประเมินว่ากำไรปกติในช่วงไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 201 ล้านบาท (+4% YoY, +25% QoQ) เติบโตจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นระหว่างปีราว 38 MW (+35% YoY) และการเข้าสู่ช่วง high season ซึ่งทำให้โรงไฟฟ้าในไทยและเวียดนาม ซึ่งเป็น major revenue contribution มี capacity factor ที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2020E ที่ 793 ล้านบาท (+29% YoY) โดย 1 H20E คิดเป็น 45% ของประมาณการดังกล่าว โดยช่วง 2H20E จะได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ Yamaga 27 MW (COD Jun 2020) เข้ามาเต็มในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาหุ้น outperform SET ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากการเป็นหุ้น defensive ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและ COVID-19 จำกัด
“เราคาดราคาหุ้นจะยัง outperform ตลาดได้ต่อ ด้วยระดับราคาปัจจุบันที่เทรด 2020E PER อยู่เพียง 8x เทียบกับค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรมที่เทรด PER = 20x นอกจากนี้เราประเมินผลประกอบการเติบโตเฉลี่ย +18% (CAGR 2019E-2022E) หนุนโดยโครงการในญี่ปุ่นกำลังการผลิตตามสัดส่วนรวม 60MW ทยอย COD 2020E-2022E และมี key catalysts ใหม่รออยู่คือพัฒนาการโครงการในเวียดนาม 40MW และโอกาสในอินโดนีเซีย 60MW”
+++มั่นใจผลงานโค้งหลังโตก้าวกระโดด
ขณะที่นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) มองว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/63 เชื่อว่าจะเห็นภาพของการเติบโตที่ค่อนข้างโดดเด่นกว่า เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากบริษัทจะสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ยามากะ (Yamaga) ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 30 เมกะวัตต์ เข้ามาได้อย่างเต็มไตรมาส หลังจากจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ รับรู้รายได้เต็มปีของโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศเวียดนาม ขนาด 40 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในมองโกเลีย ขนาด 15 เมกะวัตต์ ทำให้ปี 2563 มีกำลังการผลิตตามสัญญาโรงไฟฟ้าในมือจำนวน 135 MW ผลักดันผลการดำเนินงานในปี 2563 นี้ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง สะท้อนต่อผลการดำเนินงานในปีนี้ที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินก่อสร้าง โดยในขณะนี้บริษัทได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) แล้ว และมีกำหนดการ COD ในช่วงกลางปี 2564เป็นต้นไป
“เรายังคงมีความสนใจและมองหาโอกาสในการลงทุนด้านพลังงานงานทดแทนอื่นๆ ในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อเข้ามาช่วยเสริมฐานธุรกิจและทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายการมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 400 MW ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า”