SSP สุดสตรอง! เปิดกำไร 9 เดือนปี65 พุ่ง 59% ออลไทม์ไฮ เร่งขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ พร้อมตั้ง Sermsang new venture เตรียมลุยธุรกิจใหม่เพิ่มเติม

11 November 2022

บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) โชว์ผลงาน 9 เดือนปี 65 กำไรสุทธิโต 58.9 % แตะระดับ 1,225.6 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษจากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะในญี่ปุ่น ส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 27.0% ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” มั่นใจผลงานปีนี้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง ตามกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เร่งขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบหลังมีฐานทุนแข็งแกร่ง ปักหมุดปี 68 กำลังการผลิตไฟฟ้าโตเท่าตัว แตะ 500 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งบริษัทลงทุน Sermsang next ventures เตรียมลุยธุรกิจใหม่หา New curve ดันอนาคตเติบโตก้าวกระโดด

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) SSP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,225.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 454.5 ล้านบาท หรือ 59% จากงวดเดียวกันปีก่อน ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการรับรู้กำไรพิเศษในไตรมาสที่ 2/2565 จากขายโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ฮิดากะ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีกำไร 348.4 ล้านบาท แต่หากไม่รวมรายการดังกล่าว SSP มีกำไรจากการดำเนินงานปกติ สำหรับงวด 9 เดือนของปี 2565 ที่ 848.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.0% ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 1,884.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 400.8 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

ในงวดไตรมาส 3/2565 โดยมีรายได้รายได้จากการขายและบริการ 739.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.1 ล้านบาท หรือ 8.5 เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินงาน 258.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA หลักจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 577.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.1 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานหลักที่เติบโตต่อเนื่อง มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ , โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 1 ในประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 26 เมกะวัตต์ ,โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในประเทศเวียดนาม ขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าวินด์ชัยฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นในสัดส่วน 25% และจะเห็นว่า โครงการต่างๆที่บริษัทฯเข้าไปลงทุนล้วนเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดีมาโดยตลอด

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2565 ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องเนื่องจากจะเป็นฤดูกาลที่ดีของโรงไฟฟ้าพลังงานลม มีการเจรจาเตรียมปิดดีล M&A อีก 1-2 ดีล ทั้งที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Renewable และธุรกิจที่อยู่ในธีมของ sustainable เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและสอดคล้องกับเทรนด์ในอนาคต และบริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ โดยมีความคืบหน้าในการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ LEO 2 ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 22 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่ามีความพร้อมที่จะจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไตรมาส 2 ปี 2567 และจะสนับสนุนให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตเพิ่มเท่าตัวแตะ 500 เมกะวัตต์ ในปี 2568 จากปัจจุบันกำลังการผลิตอยู่ที่ 232 เมกะวัตต์

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า SSP ประสบความสำเร็จในการเป็นโรงไฟฟ้า Renewable เต็มรูปแบบ มีทั้ง green field และ brown field เน้นการใช้กลยุทธ์ทำ M&A strategy มากขึ้น โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้เห็นพัฒนาการในการเติบโตอย่างชัดเจน ทำให้มั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2565 แนวโน้มรายได้และกำไรจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้” นายวรุตม์กล่าวในที่สุด