ก.ล.ต. อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้น และนับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น

ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai เตรียมขาย IPO ไม่เกิน 276,375,000 หุ้น

บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ซึ่งเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ (Holding Company) เตรียมขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 276,375,000 หุ้น หลัง ก.ล.ต. อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ และนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลเสนอขายหลักทรัพย์ คาดเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปีนี้ ด้านผู้บริหารวางแผนระดมทุนเพื่อสร้างการเติบโตและเสริมศักยภาพธุรกิจ โดยขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย COD แล้ว กำลังการผลิตติดตั้ง 52 MW ปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 40 MW และอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น

นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หลังจาก บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 276,375,000 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำนวนไม่เกิน 230,375,000 หุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (Unity I. Capital Limited) จำนวนไม่เกิน 46,000,000 หุ้น รวมคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 30 ของหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยล่าสุด ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และนับหนึ่งแบบไฟลิ่ง ของ บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น เป็นที่เรียบร้อย

ปัจจุบัน บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น มีทุนจดทะเบียน 922,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 922,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนที่เรียกชำระแล้วทั้งสิ้น 691,625,000 บาท ทั้งนี้ SSP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในลักษณะโฮลดิ้ง คอมปานี ที่เข้าลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 2 กลุ่มธุรกิจคือ 1. ธุรกิจลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และ 2. ธุรกิจลงทุนและพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนประเภทอื่นๆ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซชีวภาพ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เป็นต้น

ทั้งนี้ ภายหลังที่สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และมีผลใช้บังคับแล้ว กลุ่มบริษัทฯ จะกำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO ให้แก่ประชาชนและคาดว่าจะนำ บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปีนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประกอบธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ และชำระคืนเงินกู้จากสถาบันการเงิน

ด้านนายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP บริษัทโฮลดิ้ง คอมปานี ที่ถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 1 โครงการนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 ได้แก่ โครงการ ‘เสริมสร้าง โซลาร์’ ในอำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี ที่ดำเนินการผ่านบริษัท เสริมสร้างพลังงาน จำกัด หรือ SPN ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นร้อยละ 100 โดย SPN ได้ทำสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. 1 สัญญา ปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญา 40 MW กำลังการผลิตติดตั้ง 52 MW โดยเป็นสัญญาแบบ Non-Firm มีอายุสัญญา 5 ปี และต่ออายุได้คราวละ 5 ปี ซึ่งได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) ในอัตรา 6.5 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 10 ปีนับจากวันที่เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์

ขณะเดียวกัน ณ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่น จำนวน 3 โครงการ ผ่าน SEG (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100) ซึ่งได้แก่ โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการฮิดะกะ ภายใต้การดำเนินงานของ SSH ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนร้อยละ 86.9 ในจังหวัดฮอกไกโด คาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 1/61 โดยมี Hokkaido Electric Power Company Limited ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการไฟฟ้าภาคเอกชนในเมืองฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการฮิดะกะในปริมาณซื้อขายตามสัญญารวม 17 MW กำลังการผลิตติดตั้ง 21 MW โดยมีอายุสัญญา 20 ปี และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 40 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงคงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี

โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการยามากะ ภายใต้การดำเนินงาน GSSE ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนประมาณร้อยละ 90.0 ในจังหวัดคุมาโมโต้ ดาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 2/63 โดยมี Kyushu Electric Power Co., Inc ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการไฟฟ้าภาคเอกชนในเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการยามากะ ในปริมาณซื้อขายตามสัญญารวม 30 MW กำลังการผลิตติดตั้ง 34.5 MW โดยมีอายุสัญญา 20 ปี และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงคงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี และ (2) โครงการโซเอ็น ภายใต้การดำเนินงาน ZOUEN ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนประมาณร้อยละ 100.0 ในจังหวัดคุมาโมโต้ ดาดว่าจะเริ่ม COD ภายในไตรมาส 4/61 โดยมี Kyushu Electric Power Co., Inc ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการไฟฟ้าภาคเอกชนในเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าจากโครงการยามากะ ในปริมาณซื้อขายตามสัญญารวม 6 MW กำลังการผลิตติดตั้ง 7.8 MW โดยมีอายุสัญญา 20 ปี และได้อัตรารับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 36 เยนต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมงคงที่ตลอดระยะเวลารับซื้อไฟฟ้า 20 ปี

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าทำสัญญาที่สำคัญจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 47.5 MW ปริมาณพลังงานไฟฟ้าเสนอขายตามสัญญารวม 40 MW รวมทั้งกลุ่มบริษัทฯ ร่วมกับองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (“อผศ.”) ได้ยื่นคำขอเพื่อเข้าร่วมโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ. 2560 โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน โครงการดังกล่าวได้ผ่านการคัดเลือกโดยวิธีการจับสลากจำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 5.0 MW

“เราให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุนและพัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าครบ 200 MW ภายในปี 2563 เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทพลังงานชั้นนำแห่งเอเชีย โดยจะเป็นผู้ผลิตและจัดหาพลังงานที่ยั่งยืนควบคู่กับการส่งเสริมสนับสนุนสิ่งแวดล้อมที่สะอาดอย่างมั่นคงเพื่อประโยชน์สูงสุดของสังคม” นายวรุตม์กล่าว

นางสาวธัณฐภรณ์ ไกรพิสิทธิ์กุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวว่า บริษัทฯ มีจุดเด่นด้านความเชี่ยวชาญในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ โดยมุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าได้อย่างมีเสถียรภาพและสม่ำเสมอ รวมถึงให้ความสำคัญกับการเลือกสถานที่ตั้งโครงการที่จะต้องมีค่าความเข้มของแสงอาทิตย์ในระดับที่เหมาะสม มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่ดี รวมถึงไม่มีข้อจำกัดด้านการเชื่อมโยงระบบเข้ากับโครงข่ายไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีทีมบริหารที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Contact